กาวซิลิโคนและกาวโพลียูรีเทน (กาวพียู) แตกต่างกันอย่างไร
กาวยาแนว หรือ Sealant คือวัสดุอุดแนวรอยต่อระหว่าง 2 วัสดุซึ่งอาจเหมือนหรือแตกต่างกันก็ได้ เพื่อป้องกันการซึมผ่านของน้ำ แก๊ส และฝุ่น และรองรับการขยับตัวของรอยต่อ กาวยาแนว 2 ประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ กาวซิลิโคน และกาวโพลียูรีเทนหรือกาวพียู กาวยาแนวทั้งสองประเภทมีความยืดหยุ่นและรองรับการยืดหดตัวได้ถึง 25-50 เปอร์เซ็นต์ แต่กาวทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันทำให้เหมาะแก่การใช้งานที่ต่างกันออกไป ความแตกต่างระหว่างซิลิโคน และโพลียูรีเทน (กาวพียู) ได้แก่
คุณสมบัติทางเคมี
กาวซิลิโคน เป็นสารประกอบอนินทรีย์ ประกอบด้วยซิลิคอนและออกซิเจน เป็นองค์ประกอบหลัก มีโครงสร้างสันหลัง (Backbone) เป็นซิลิคอนจับกับออกซิเจน (Si-O-Si) ซึ่งมีพลังงานพันธะ (Bond Energy) หรือพลังงานที่ต้องใช้ในการสร้างหรือทำลายพันธะเท่ากับ 106 kcal/mol ซึ่งมีค่ามากกว่าค่าพลังงานพันธะของกาวโพลียูรีเทนที่เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีโครงสร้างสันหลังเป็นคาร์บอน (C-C / ค่าพลังงานพันธะเท่ากับ 85 kcal/mol) ทำให้มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงอาทิตย์
กาวโพลียูรีเทน เป็นสารประกอบอินทรีย์ ซึ่งประกอบด้วยไนโตรเจน คาร์บอน และออกซิเจนเป็นองค์ประกอบหลัก จึงทนรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ ได้น้อยกว่ากาวซิลิโคน และอาจมีการเปลี่ยนสีของเนื้อกาวจึงมักจะมีการทาสีทับ หรือมีสารเคลือบเซรามิกป้องกันในกรณีกระจกรถ
![ความแตกต่างระหว่าง กาวซิลิโคน และ กาวโพลียูรีเทน (กาวพียู)](https://adheseal.com/wp-content/uploads/2020/09/Screen-Shot-2563-09-01-at-09.58.30.png)