ทุกวิธีการก่อสร้าง มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับการก่อสร้างโดยใช้พรีคาสท์คอนกรีต ในการก่อสร้าง ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะนำไปใช้ในการสร้างบ้านขนาดเล็กๆ จนไปถึงอาคารขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งสะพานสูงๆ การรู้ข้อดีและข้อเสียของ Precast Concrete คือ อะไรก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อย
พรีคาสท์คอนกรีต หรือ Precast Concrete คือ คอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ถูกหล่อขึ้นก่อนในโรงงาน ให้มีรูปร่างตามที่ต้องการ ก่อนที่จะถูกขนส่งและนำไปประกอบกันที่ไซต์งาน คอนกรีตนั้นจะถูกเทลงในแม่พิมพ์ และเสริมความแข็งแรงด้านในด้วยเหล็กเส้น โดยในการแข็งตัวของคอนกรีตจะถูกควบคุมให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม และมีการควบคุมคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ ทำให้พรีคาสท์คอนกรีตนั้นมีความแข็งแรงและมีคุณภาพสูงกว่าการหล่อคอนกรีตที่หน้างาน
ข้อดีของ Precast Concrete
ประหยัดเวลาในการก่อสร้าง
ด้วยการที่คอนกรีตมาในรูปแบบที่พร้อมประกอบและใช้งาน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างแม่พิมพ์ การเทคอนกรีต และการรอให้คอนกรีตแห้งตัวที่หน้างาน ทำให้สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ทันที
มีมาตรฐาน
พรีคาสท์คอนกรีตถูกหล่อขึ้นมาโดยใช้แม่พิมพ์ชิ้นเดิมซ้ำๆ ทำให้พรีคาสท์แบบเดียวกันที่ออกมาจากโรงงานเดียวกัน มีรูปร่างและขนาดสม่ำเสมอ เนื่องจากควบคุมคุณภาพได้ง่าย
มีคุณภาพสูง
ก่อนพรีคาสท์คอนกรีตจะออกจากโรงงานไปยังไซต์งานได้ จะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด ไม่ให้มีข้อบกพร่อง ทั้งนี้ยังมีกระบวนการผลิตที่เคร่งครัด และการควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ระหว่างการผลิต ทำให้พรีคาสท์คอนกรีตมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าคอนกรีตชนิดอื่นๆ
![Precast Concrete การผลิต](https://adheseal.com/wp-content/uploads/2021/04/103978811_24f0a6fe97.jpg)
เป็นทางเลือกประหยัด
การใช้พรีคาสท์คอนกรีตยังเป็นทางเลือกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า ข้อนี้ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของพรีคาสท์คอนกรีตเลยก็ว่าได้ เนื่องจากการผลิตเป็นการผลิตทีละจำนวนมากๆ ทำให้มีราคาถูก แถมยังลดค่าแรง และลดระยะเวลาที่ใช้ในการก่อสร้างอีกด้วย
คงทนแข็งแรง
อาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่ถูกสร้างด้วยพรีคาสท์คอนกรีตจะมีความแข็งแรงมากกว่าบ้านที่สร้างด้วยวิธีการอื่น เพราะมีการเสริมเหล็กด้านใน และมีการควบคุมคุณภาพที่ดี ทำให้มีอายุการใชช้งานยาวนานกว่า และลดการดูแลรักษาซ่อมแซมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ใช้พื้นที่เก็บวัสดุก่อสร้างที่หน้างานน้อย
เนื่องจากคอนกรีตถูกหล่อมาสำเร็จเรียบร้อยจากโรงงานแล้ว ทำให้ไม่ต้องมีการเก็บวัสดุก่อสร้างอื่นๆที่หน้างาน และยังทำให้หน้างานเป็นสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย
ข้อเสีย Precast Concrete
ถึงแม้จากบทความข้างต้น จะเห็นว่าพรีคาสท์คอนกรีตมีข้อดีมากมายหลายข้อ แต่จริงๆแล้วการทำงานกับพรีคาสท์คอนกรีตก็มีความยากลำบาก และมีข้อเสียเช่นกัน
การขนส่ง
เนื่องจากพรีคาสท์คอนกรีตมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก ในการขนย้ายพรีคาสท์คอนกรีตจากโรงงานไปยังหน้างานจึงเป็นเรื่องยาก ต้องใช้รถยก รถบรรทุกหรือรถพ่วงขนาดใหญ่ และด้วยน้ำหนักที่มากอาจทำให้รถบรรทุกที่ขนย้ายพรีคาสท์คอนกรีตเสียหายหรือชำรุดได้ และต้องมีการยึดพรีคาสท์คอนกรีตอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการขนส่ง
![Precast Concrete Transportation](https://adheseal.com/wp-content/uploads/2021/04/1Z4A5261.jpg)
การติดตั้งก่อสร้าง
ในการติดตั้งที่หน้างาน มักจำเป็นต้องใช้เครนในการเคลื่อนย้าย ทั้งนี้จึงต้องมีการวางแผนงานล่วงหน้าในการเช่าเครน
![Precast Concrete Crane](https://adheseal.com/wp-content/uploads/2021/04/Daves-Crane-Wrecker-Service-1080x675-1.jpg)
ยากที่จะแก้ไข ดัดแปลง
การดัดแปลงแก้ไขพรีคาสท์คอนกรีตถือเป็นเรื่องยากเพราะโครงสร้างมีการเสริมเหล็ก ยากต่อการดัดแปลงทั้งขณะก่อสร้างและหลังก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย สำหรับท่านใดที่ต้องการซื้อบ้านแล้วต้องการดัดแปลงบ้านเยอะๆ เช่น การเจาะประตู เจาะหน้าต่างหลายๆจุด อาจจะต้องเลือกบ้านที่ก่อสร้างด้วยวัสดุชนิดอื่น เช่น อิฐมวลเบาแทน
มีรอยต่อจำนวนมาก
ในการก่อสร้างโดยใช้พรีคาสท์คอนกรีตที่เป็นคอนกรีตชิ้นใหญ่ๆมาต่อกัน จำเป็นจะต้องมีรอยต่อในกรณีคอนกรีตขยายหรือหดตัวเมื่อเจอกับสภาพอากาศต่างๆ และไม่ให้คอนกรีตแตก ซึ่งรอยต่อนี้หากได้รับการปิดรอยต่อ หรือยาแนวที่ไม่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมได้ในอนาคต และยังเป็นบริเวณที่อ่อนไหวในกรณีเกิดแผ่นดินไหวขึ้น
สำหรับการยาแนวระหว่างแผ่นรอยต่อของพรีคาสท์คอนกรีต เพื่อไม่ให้เกิดรอยแตก ควรยาแนวปิดรอยต่อด้วยวัสดุยาแนวที่มีความยืดหยุ่น แต่แข็งแรง และทนต่อความชื้น เช่น SEAGARD P11 HM PLUS
SEAGARD P11 HM PLUS
ซีการ์ด พี11 เอชเอ็ม พลัส
![](https://adheseal.com/wp-content/uploads/2021/04/P11-hm-plus.png)
มีความยึดหยุ่นสูงกว่ากาวอีพ็อกซี่ทั่วไป
มีความแข็งแรงสูง ทนต่อความชื้น และสารเคมี
ปราศจากตัวทำละลาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หดตัวน้อย ทำงานได้ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง
ผสมง่ายด้วยอัตราส่วนผสม 1:1
ASTM C881-90, Type I Grade 3 Class B+C