ลามิเนต เป็นภาษาอังกฤษ ที่หมายถึง การซ้อนกันเป็นชั้นๆ เช่นเดียวกับ พื้นไม้ลามิเนต ซึ่งก็คือ วัสดุปูพื้น ที่ประกอบด้วยวัสดุหลายๆชนิดซ้อนทับกัน เช่น ไม้อัด PVC พิมพ์ลาย และฟิล์ม แล้วอัดให้กลายเป็นแผ่นเดียวกัน โดยมีลักษณะภายนอกเหมือนกับไม้จริง แต่ที่สำคัญคือ มีราคาถูกกว่าไม้จริงที่มีความหายากกว่า และมีอยู่อย่างจำกัด ถึง 4-5 เท่า นอกจากราคาที่ถูก พื้นไม้ลามิเนตยังมีความทนทาน สีไม่ซีดจาง มีลวดลาย ดีไซน์ให้เลือกเยอะ ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่เลอะเทอะ จึงทำให้พื้นไม้ลามิเนตเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในการปูพื้นบ้าน และคอนโดใหม่ๆในทุกวันนี้ แต่แน่นอนพื้นไม้ลามิเนตคงไม่ได้มีแต่ข้อดี พื้นไม้ลามิเนต ข้อเสีย ก็มีไม่น้อยเหมือนกันนะจ้ะ
ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต
พื้นไม้ลามิเนตมีหลากหลายสไตล์ให้เลือก
พื้นลามิเนตประกอบด้วยแผ่นไม้อัด และแผ่นกระดาษหรือ PVC พิมพ์ลาย ทับด้านบนชั้นไม้อัด เพื่อเลียนแบบวัสดุธรรมชาติ ซึ่งลายที่พิมพ์สามารถเป็นอะไรก็ได้ อย่างเช่น ไม้เนื้ออ่อน ไม้เนื้อแข็งที่หายาก คอนกรีต หรือหินธรรมชาติ โดยอาจมีการปั้มลายนูนเพื่อให้ได้ผิวสัมผัสที่เหมือนวัสดุนั้นๆจริงๆมากขึ้นอีกด้วย
พื้นไม้ลามิเนตมีราคาถูกกว่า
คนส่วนมากเลือกใช้พื้นไม้ลามิเนตก็เพราะเหตุผลนี้ ไม้ลามิเนตมีราคาที่ถูกกว่า เพราะไม้ลามิเนตเป็นไม้เชิงประกอบ (Composite Wood) ไม่ได้ทำมาจากไม้แท้ที่เป็นแผ่นเดียว ทำให้มีราคาต่ำกว่าไม้แท้ถึง 4-5 เท่า ยกตัวอย่างเช่น ไม้ลามิเนตมีราคาประมาณ 700-800 บาท ต่อตารางเมตร เมื่อเทียบกันราคาของพื้นไม้แท้ที่มีราคาตั้งแต่ 1,500 ถึง 4,500 ต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้
โดยราคาของไม้ลามิเนตก็มาคู่กับคุณภาพด้วยเช่นกัน ไม้ลามิเนตที่มีราคาสูงกว่าอาจจะมีลวดลาย และพื้นผิวที่เหมือนกับไม้จริงมากกว่าไม้ลามิเนตราคาถูก ไม้ลามิเนตราคาถูกอาจจะมีความหนาน้อยกว่า ทำให้ และมีความคงทนน้อยกว่า เป็นต้น
พื้นไม้ลามิเนตมีความทนทาน
พื้นไม้ลามิเนตมีฟิล์มเคลือบผิว ที่ถูกออกแบบให้ทนทานต่อการขีดข่วน การบิ่น การเป็นคราบ และทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสี UV) จึงทำให้พื้นไม้ลามิเนตมีความคงทน ไม่เป็นรอย และสีไม่เฟดเมื่อโดนแสงแดดเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ถ้าหากมีไม้ลามิเนตแผ่นไหนเสียหาย สามารถถอดแล้วเปลี่ยนแค่ไม้ลามิเนตแผ่นนั้นได้
โดยค่าความคงทนต่อรอยขูดขีดนี้มีค่าชี้วัด ที่เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก ที่เรียกว่า ค่า AC หรือค่า Abrasion Classification โดยข้อกำหนดการสึกถลอกของผิวหน้าพื้นไม้ลามิเนต ตามมาตรฐาน EN13329 มีค่าตั้งแต่ AC1 – AC6 โดยค่ายิ่งมากแปลว่ามีความคงทนมาก
ค่า AC แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามการใช้งาน ดังนี้
1) สำหรับพื้นที่พักอาศัย (Residential Use)
- AC1 (Class 21) : ที่พักอาศัยที่มีการเดินผ่านน้อย เหมาะกับห้องนอน
- AC2 (Class 22) : ที่พักอาศัยที่มีการเดินผ่านทั่วไป เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว
- AC3 (Class 23/31) : ที่พักอาศัยที่มีการเดินผ่านมาก สามารถใช้ได้ทุกที่ เช่น ห้องรับแขก ห้องโถง และทางเดิน
2) สำหรับพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ (Commercial Use)
- AC4 (Class 32) : สำหรับพื้นที่การค้าทีมีการเดินผ่านทั่วไป เช่น สำนักงาน ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านกาแฟ และโรงแรมบูทีคเล็กๆ
- AC5 (Class 33) : สำหรับพื้นที่การค้าที่เดินผ่านปานกลางถึงมาก เช่น อาคารสาธารณะ โชว์รูม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และโรงเรียน
- AC6 (Class 34) : สำหรับพื้นที่การค้าที่มีการเดินผ่านมาก เช่น อาคารสาธารณะ ซุปเปอร์มาร์เก็ต สถานีรถไฟ สนามบิน และสถานที่ราชการ
โดยก่อนการซื้อไม้ลามิเนต ควรตรวจสอบค่า AC จากข้างกล่องของสินค้า หรือสอบถามจากร้านค้าก่อนซื้อ เพื่อให้มีความทนทานเหมาะสมแก่การใช้งาน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และยาวนาน
พื้นไม้ลามิเนตติดตั้งง่าย
การปูพื้นที่ง่ายที่สุด ก็คงไม้พ้นการปูพื้นด้วยไม้ลามิเนต ด้วยเหตุผลที่พื้นไม้ลามิเนตเป็นพื้นแบบพื้นลอย ซึ่งหมายถึง การติดตั้งนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ตะปู หรือกาวแต่อย่างใด เพราะพื้นไม้ลามิเนตสามารถติดตั้งได้โดยการเข้าลิ้น ซึ่งทำให้มีความสะดวก สามารถทำได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังสามารถปูทับพื้นเดิมได้เกือบทุกประเภท เช่น พื้นคอนกรีต พื้นไม้ พื้นไม้อัด พื้นกระเบื้อง และพื้นไวนิล เป็นต้น
พื้นไม้ลามิเนตดูแลง่าย
การดูแลพื้นไม้ลามิเนตทำได้โดยการกวาดหรือดูดฝุ่นออก และใช้น้ำเปล่า (ประปา) ในการถูพื้นเพื่อกำจัดคราบสกปรก โดยให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาถูพื้นที่มีฤทธิ์กัดกร่อน และเครื่องขัดพื้น
พื้นไม้ลามิเนต ข้อเสีย
พื้นไม้ลามิเนตไม่ทนความชื้น
แกนกลางของไม้ลามิเนตทำมาจากวัสดุ HDF หรือ High Density Fiberboard ซึ่งก็คือแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง ซึ่งทนต่อความชื้นน้อยกว่าไม้ธรรมชาติ เมื่อไม้ HDF โดนน้ำเป็นเวลานาน เนื้อไม้จะแตกยุ่ย และบวม เมื่อพื้นไม้ลามิเนตโดนน้ำจำนวนมาก เป็นเวลานาน จึงจะบวม และต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนใหม่เพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ไม้ลามิเนตไม่เหมาะสำหรับการปูพื้นในบางห้อง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องซักล้าง เป็นต้น และเมื่อพื้นไม้ลามิเนตมีความชื้นสูง ก็จะทำให้มีโอกาสโดนปลวดแทะได้อีกด้วย
พื้นไม้ลามิเนตไม่สามารถซ่อมแซมได้
ข้อดีข้อหนึ่งของไม้แท้ก็คือ เมื่อพื้นผิวไม้เสียหาย สามารถขัดด้วยกระดาษทรายเพื่อเอาพื้นผิวที่เสียหายออก แล้วทำสีใหม่ได้จำนวนหลายๆครั้ง แต่ในกรณีของพื้นไม้ลามิเนต ลายของไม้เกิดมาจากแผ่นกระดาษหรือ PVC พิมพ์ลายบางๆเพื่อหลอกตาให้ดูเหมือนเป็นไม้แท้ จึงไม่สามารถขัดกระดาษทรายเพื่อซ่อมแซมได้
พื้นไม้ลามิเนตจึงอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีในด้านของราคาเริ่มต้น แต่ในระยะยาวพื้นไม้แท้ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การมีพื้นไม้แท้ เมื่อขายบ้านต่อจะทำให้สามารถขายได้ราคาสูงกว่าอีกด้วย