หลายๆครั้งนั้นเราอาจสงสัยว่า คราบสีดำคล้ายน้ำสกปรกไหล บนอลูมิเนียมคอมโพสิต หรือคราบฉ่ำบนฟาซาดหินธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นจากอะไร แล้วจะป้องกันเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แก้ไขได้ง่ายๆด้วย Non Staining Sealant
คราบดังกล่าวนี้มีต้นกำเนิดมาจากกาวยาแนว ซึ่งมักเป็นกาวซิลิโคนที่มีราคาถูก ที่ใช้ยาแนวระหว่างร่องอะลูมิเนียมคอมโพสิต หรือแผ่นหินธรรมชาติ ในกาวซิลิโคนจะมีส่วนผสมของพลาสติไซเซอร์ หรือน้ำมันซิลิโคน ที่ช่วยในเรื่องของความยืดหยุ่น และการไหลของกาวซิลิโคน โดยทั่วไปแล้ว พลาสติไซเซอร์จะไม่ได้แข็งตัวแล้วยึดเกาะติดกับกาวที่แข็งตัวแล้ว ฉะนั้นเมื่อใช้ไปเป็นเวลานาน พลาสติไซเซอร์จะสามารถระเหยออกมาเป็นไอ หรือไหลซึมออกมาจากเนื้อกาวได้
ในกรณีของคราบดำบนอลูมิเนียมคอมโพสิต ด้วยความที่อลูมิเนียมคอมโพสิตไม่มีรูพรุน พลาสติไซเซอร์ที่ซึมออกจากเนื้อกาวก็จะไหลลงไปบนแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต จึงทำให้สิ่งสกปรกและฝุ่นมาเกาะได้ง่าย ด้วยความที่พลาสติไซเซอร์หรือน้ำมันซิลิโคนมีความมัน ทำให้เกิดคราบดำไหลเยิ้มทำความสะอาดยากติดอยู่บนแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต
สำหรับกรณีคราบฉ่ำบนฟาซาดหินธรรมชาติ ด้วยความที่หินธรรมชาติมีรูพรุนสูง พลาสติไซเซอร์ที่ระเหยออกมาจากเนื้อกาวซิลิโคนจึงซึมเข้าไปในเนื้อหินธรรมชาติ ทำให้หินเปลี่ยนสี มีสีเข้มขึ้น และเป็นคราบฉ่ำ
วิธีการแก้ไขปัญหาคราบจากกาวยาแนว
วิธีการแก้ไขปัญหาคราบจากกาวยาแนวซิลิโคนที่ดีที่สุด คือ การเลือกใช้การซิลิโคนคุณภาพสูง ที่มีคุณสมบัติ Non-Staining ซึ่งไม่มีพลาสติไซเซอร์ เช่น กาวซิลิโคนซึ่งมีมาตรฐาน Non-Staining ASTM C1248 รองรับ เช่น Shinetsu SEALANT-556LS หรือเลือกใช้เป็นกาว MS Sealant เช่น BONDFLEX Modified Sealant 35 หรือกาวโพลียูรีเทน อย่าง BONDFLEX PU แทน เพื่อไม่ให้เกิดคราบตั้งแต่แรก
ในการเลือกกาวซิลิโคนให้ไม่เกิดคราบ ควรเลือกกาวที่มีมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ Non-Staining คือ
มาตรฐาน ASTM C1248
ASTM C1248 Standard Test Method for Staining of Porous Substrate by Joint Sealants
เป็นการทดสอบว่ากาวยาแนวจะทำให้วัสดุที่มีรูพรุนเกิดคราบหลังการใช้งานหรือไม่ โดยการยิงกาวยาแนวระหว่างวัสดุที่มีรอยพรุน 2 ชิ้น แล้วทิ้งเอาไว้ภายใต้สภาวะต่างๆ แล้วทำการตรวจสอบว่าเกิดคราบบนวัสดุหรือไม่ ถ้าเกิดมีความลึกและความกว้างมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นถ้าหากต้องการนำกาวยาแนวมาใช้กับวัสดุที่มีรูพรุน เช่น หินธรรมชาติ ที่ต้องการความสวยงามอย่างงานฟาซาด กาวยาแนวจึงควรผ่านการทดสอบมาตรฐาน ASTM C1248
สำหรับอาคารที่มีการติดตั้งกาวซิลิโคนที่มีพลาสติไซเซอร์ไปแล้ว แล้วมีคราบดำเกินขึ้น ในกรณีของอลูมิเนียมคอมโพสิต สามารถทำความสะอาดเพื่อลดปัญหาคราบฝังแน่นได้ โดยอาจเลือกใช้เป็นบริการทำความสะอาดอลูมิเนียมคอมโพสิตโดยผู้เชี่ยวชาญได้
สำหรับหินธรรมชาติที่มีรูพรุน นอกจากการเลือกใช้กาวยาแนวที่ไม่ทำให้เกิดคราบแล้ว การเลือกชนิดของกาวยาแนวให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรเลือกใช้กาวยาแนวชนิดเป็นกรด (Acetoxy Sealant) เพราะหินธรรมชาติบางชนิดมีฤทธิ์เป็นด่าง ซึ่งอาจทำปฏิกิริยากับผลิตภัณฑ์พลอยได้ (by-products) ของกาวชนิดเป็นกรด ซึ่งอาจทำให้เกิดสารที่ลดแรงยึดเกาะของกาวกับหินธรรมชาติ นอกจากนี้ถ้าต้องการความสวยงานของร่องกาวยาแนว ยังต้องคำนึงถึงอีกหนึ่งปัจจัย คือ เมื่อยิงกาวยาแนวติดกับวัสดุที่มีรูพรุนแล้ว เนื้อกาวจะไม่เป็นคราบหรือเปลี่ยนสี ตามมาตรฐาน ASTM C510 Standard Test Method for Staining and Color Change of Single- or Multicomponent Joint Sealants
BONDFLEX PU 25 (บอนด์เฟล็กซ์ พียู 25)
กาวยาแนวรอยต่อโพลียูรีเทนความแข็งแรงสูง
บอนด์เฟล็กซ์ พียู 25 เป็นกาวยาแนวโพลียูรีเทน ที่มีความยืดหยุ่น ยึดเกาะตัวได้ดีบนพื้นผิวเกือบทุกชนิดในงานก่อสร้างโดยไม่ต้องการวัสดุรองพื้นเมื่อใช้กับคอนกรีต อลูมิเนียมและกระจก เหมาะกับการยาแนวรอยต่อแบบมาตรฐาน แนวรอยต่อแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป แผ่นวัสดุสำเร็จรูป คานสะพาน ทางใต้ดิน เฉลียง รอยต่อหน้าต่าง-ประตูอลูมิเนียม ไม้และพีวีซี รอยต่อระหว่างพื้นและผนัง กล่องประตูชัตเตอร์ ตู้คอนเทรนเนอร์ บ้านเคลื่อนที่ การต่อเรือ ระบบทำความเย็น ห้องควบคุมสิ่งแวดล้อม เช่น ห้องผ่าตัด ห้องปลอดเชื้อ ยาแนวไม้ ไฟเบอร์กลาส PVC กระเบื้องเซรามิค ชิ้นส่วนโลหะ ใช้ยึดติดและยาแนวระหว่างวัสดุต่างชนิดบนพื้นผิวที่หลากหลาย เช่น คอนกรีต อลูมิเนียม พีวีซี อิฐ ไม้ กระเบื้องเซรามิค คอมแพคลามิเนท วัสดุประเภทหินธรรมชาติและหินเทียม เหล็กกล้า เป็นต้น รวมทั้งการประยุกต์ใช้งานตามมาตรฐาน SNJF ของฝรั่งเศส สามารถทาสีทับได้หลังจากกาวแห้งตัวเต็มที่
BONDFLEX MODIFIED SEALANT 35 (บอนด์เฟล็กซ์ โมดิฟาย ซีแลนท์ 35)
ไม่เป็นคราบเปื้อนไม่ว่าจะเป็นพื้นหินและพื้นผิวที่มีรูพรุน
ไม่มีสารประกอบไอโซไซยาเนต จึงไม่เป็นฟองอากาศที่กาว
ไม่มีสารพาทาเลท
สีกาวไม่เปลี่ยนไม่เหลือง และมีความคงทนสูง
สามารถทาทับด้วยสีน้ำได้หลังจากแห้งตัว