ซิลิโคน 1 หลอดยิงได้กี่เมตร
การออกแบบรอยต่อสำหรับการยาแนวซิลิโคน และโพลียูรีเทน (พียู) ในการใช้ยาแนวในรอยต่อ จะต้องมีการออกแบบรอยต่อ (Joint Design) ให้เหมาะสมเพื่อความแข็งแรงคงทนของยาแนวในการปิดรอยต่อเพื่อรองรับการยืดหดและการขยายตัวของรอยต่อ และกันน้ำและความชื้นรั่วซึม โดยทั่วไปในสิ่งก่อสร้างกาวยาแนวถือเป็นเพียงส่วนเล็กๆของงานและมูลค่างาน แต่หากเกิดปัญหาขึ้น มักจะเกิดขึ้นจากยาแนวเป็นอย่างแรกและส่งผลกระทบที่เห็นได้ชัด ฉะนั้นการให้ความสำคัญในการเลือกยาแนวและออกแบบรอยต่อจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการใช้กาวยาแนวประสานรอยต่อ สิ่งที่สำคัญคือการที่กาวยาแนวควรยึดติดกับรอยต่อเพียงแค่ 2 ด้านเท่านั้น มิใช่ 3 ด้าน เพื่อให้รอบต่อสามารถขยับเคลื่อนตัวได้ และกาวยาแนวสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ Backer Material ในการรองด้านล่างของรอยต่อ เพื่อไม่ให้กาวยาแนวติดกับด้านที่ 3 ของรอยต่อ และเป็นการควบคุมปริมาณการใช้และความหนาของกาวยาแนวอีกด้วย สำหรับความหนาและความกว้างของกาวยาแนว ความกว้างของกาวยาแนวจะเท่ากับความกว้างของรอยต่อ โดยอัตราส่วนระหว่างความกว้างและความลึกของกาวยาแนวควรอยู่ระหว่าง 1:1 ถึง 2:1 หากกาวยาแนวมีความหนามากเกินไป กาวยาแนวจะไม่สามารถยืดหดตามแนวรอยต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงอาจะทำให้กาวยาแนวแตกหรือหลุดออกจากรอยต่อได้ กาวยาแนว เช่น กาวโพลียูรีเทน (พียู) และ ซิลิโคน 1 หลอด ยิงได้กี่เมตร? หลังจากการออกแบบรอยต่อ เราจะทราบความกว้างและความลึกของกาวยาแนวที่จะใช้ เราจึงสามารถนำค่าเหล่านี้มาคำนวณหาปริมาณกาวยาแนวที่จำเป็นต้องใช้ในงาน ในการหาว่ากาวพียู หรือ ซิลิโคน 1 หลอดยิงได้กี่เมตร สามารถคิดได้โดยการนำปริมาตรของกาวยาแนวที่เขียนอยู่ข้างบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์มาหารด้วยพื้นที่หน้าตัดของรอยต่อ ซึ่งก็คือความกว้างคูณด้วยความลึกของรอยต่อหรือกาวยาแนว […]