บทความ & ความรู้ทั่วไป

Hybrid Sealant หรือ MS Sealant คืออะไร ดีกว่ากาวยาแนวชนิดอื่นๆอย่างไร

MS hybride

Hybrid Sealant คือ กาวยาแนวที่เกิดจากการรวมคุณสมบัติที่ดีของกาวซิลิโคน และกาวโพลียูรีเทนเข้าด้วยกัน โดยนำเฉพาะคุณสมบัตเด่นในเรื่องของความแข็งแรง และการทาสีทับได้มาจากกาวโพลียูรีเทน และคุณสมบัติการทนทานต่อรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากกาวซิลิโคน

นอกจากนี้กาว Hybrid ยังคุณสมบัติพิเศษอื่นๆได้แก่ มีตัวทำละลายต่ำ (Solvent-free) และไอโซไซยาเนตต่ำ (Isocyanate-free) ทำให้เมื่อแข็งตัวแล้วมีการหดตัวต่ำ และไม่มีฟองอากาศคล้ายแผลพุพองบนผิวเนื้อกาว

กาวไฮบริดสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ Silyl-Modified Polyurethanes (SPUR Polymers) และ Silyl-Modified Polyethers (MS Polymers) ทั้ง 2 ชนิดมีคุณสมบัติทางเคมีที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีโครงสร้าง (Backbone Structure) ใกล้เคียงกัน โดยตัวที่ได้รับความนิยมในหมู่กาวยาแนว Hybrid Sealant เป็นอย่างมากในขณะนี้คือ MS Sealant

ข้อดีของกาว Hybrid Sealant หรือ MS Sealant

  • ดีต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly)

    กาว Hybrid Sealant มีสารระเหยต่ำ (Low VOCs) ตัวทำละลายต่ำ (Low Solvent) และไม่มีไอโซไซยาเนต (Isocyanate-Free) ที่เป็นอันตราย

 

  • ไม่เกิดฟองอากาศบนผิวเนื้อกาว (Non-Bubbling)

เนื่องจากไอโซไซยาเนต เมื่อทำปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศ จะได้ผลผลิตเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับกาวที่มีส่วนผสมเป็นไอโซไซยาเนตอย่างเช่นกาวซิลิโคน เวลาแห้งตัวอาจทำให้เกิดฟองอากาศบนผิวเนื้อกาวได้ ส่งผลกระทบกับความสวยงานของหน้างาน แต่สำหรับกาวไฮบริด จะไม่มีส่วนผสมของไอโซไซยาเนต จึงไม่เกิดฟองอากาศบนผิวหน้ากาว

  • ยิงง่ายที่อุณหภูมิต่ำ (Low Temperature Gunnability)
    อุณหภูมิมีผลกระทบต่อความหนืดของกาว Hybrid Sealant น้อย ทำให้เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงแล้วความหนืดของ Hybrid Sealant ไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่ออุณภูมิต่ำความหนืดจะไม่สูงมาก ทำให้ยิงกาวออกมาจากหลอดได้ง่าย
 
  • หดและยุบตัวน้อย (Shrinkage)
    สำหรับกาวที่มีส่วนผสมของตัวทำละลาย (Solvent) มาก เช่น กาวซิลิโคนและกาวโพลียูรีเทนคุณภาพต่ำ เวลาแห้งแล้วแข็งตัว ตัวทำละลายจะระเหยออกมา และทำให้เนื้อกาวหดและยุบตัว ดังนั้นกาวไฮบริดที่มีส่วนผสมของตัวทำละลายน้อย (น้อยกว่า 10%) จึงมีอัตราการหดและยุบตัวน้อยกว่า
 
  • แห้งตัวเร็ว (Quick Cure)
    กาวไฮบริดใช้เวลาในการแห้งตัวเร็วกว่ากาวโพลียูรีเทนและกาวซิลิโคนทั่วไป โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 ในการแห้งผิว ทำให้เหมาะสมแก่งานก่อสร้างที่ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก และยังช่วยลดการจับฝุ่นขณะกาวยังไม่แห้ง และทั้งนี้ยังสามารถยิงได้หนากว่ากาวโพลียูรีเทน เพราะสามารถแห้งตัวได้ที่ความลึกมากกว่า
 
  • เก็บรักษาได้นาน (Long Shelf Life)
    สำหรับกาวชนิดอื่นที่ไม่ใช่ Hybrid Sealant หรือ MS Sealant ที่มีส่วนผสมของไอโซไซยาเนต จะต้องทำการเก็บอย่างเหมาะสม และบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้สัมผัสกับอากาศและความชื้นภายนอก เนื่องจากไอโซไซยาเนตมีความไวต่อการทำปฏิกิริยากับความชื้นและอากาศ ซึ่งจะทำให้คุณภาพลดลง และคุณสมบัติของกาวเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ไม่สามารถเก็บได้นานเท่ากับกาวชนิดไฮบริด
 
  • ทนต่อสภาพอากาศ (Weather Resistance)
    สำหรับกาวโพลียูรีเทน เมื่อถูกรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เป็นเวลานานจะเกิดการเสื่อมสภาพ หดตัว และแตกร้าว เนื่องจากถูกผลิตมาจากสารอินทรีย์ (Organic) จึงไม่ทนต่อสภาพอากาศที่โหดร้าย ในทางกลับกันกาวไฮบริด ได้ถูกผลิตโดยให้มีลักษณะเด่นเหมือนกาวซิลิโคนซี่งเป็นสารอนินทรีย์ (Inorganic) ซึ่งทนต่อสภาพอากาศและรังสีอัลตราไวโอเลต (UV)
 
  • ยึดเกาะได้บนหลากหลายวัสดุ (Adhesion to Various Substrate)
    สามารถยึดเกาะได้กับวัสดุก่อสร้างเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นวัสดุมีรูพรุนสูงหรือมีพื้นผิวเรียบ เช่น คอนกรีต หินธรรมชาติ ไม้ ยิปซัม พลาสติก เซรามิก โลหะ เป็นต้น
 
  • ไม่เกิดคราบ (Stain Resistance)
    สำหรับกาวซิลิโคนคุณภาพต่ำจะมีส่วนผสมของน้ำมันซิลิโคนที่ไม่ไวต่อปฏิกิริยา (์Non-Reactive Silicone Oil Plasticizers) ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ จะสามารถซึมออกมานอกเนื้อกาว จนทำให้เกิดคราบบนวัสดุที่มีรูพรุนสูงได้ เช่น หินธรรมชาติต่างๆ

ทั้งนี้สำหรับกาว Hybrid หรือ MS ตัวพลาสติไซเซอร์จะเป็นแบบไวต่อปฏิกิริยา (Reactive Plasticizers) ซึ่งจะสร้างพันธะกับโมเลกุลข้างเคียง (Crosslink) จึงจะไม่ซึมออกมาหลังการใช้งานเป็นเวลานานๆ และไม่ทำให้เกิดคราบ

  • ทาสีทับได้ (Paintability)
    สำหรับกาว Hybrid และ MS เช่นเดียวกับกาวโพลียูรีเทน สามารถทาสีทับได้ โดยสีที่เหมาะสมคือสีชนิดอะคริลิคสูตรน้ำ สำหรับสีสูตรน้ำมันจะแห้งยากกว่าสีสูตรน้ำ
 

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของกาว MS, กาวโพลียูรีเทน และกาวซิลิโคน

MS Hybrid Sealant VS Silicone VS Polyurethane
กาวเอมเอส กาว MS กาวไฮบริด MS Sealant Hybrid Sealant
  • ไม่เป็นคราบเปื้อนไม่ว่าจะเป็นพื้นหินและพื้นผิวที่มีรูพรุน
  • ไม่มีสารประกอบไอโซไซยาเนต จึงไม่เป็นฟองอากาศที่กาว
  • ไม่มีสารพาทาเลท
  • สีกาวไม่เปลี่ยนไม่เหลือง และมีความคงทนสูง
  • สามารถทาทับด้วยสีน้ำได้หลังจากแห้งตัว สามารถทาสีทับได้หลังจากกาวแห้งตัวเต็มที่
 

บอนด์เฟล็กซ์ โมดิฟาย ซีแลนท์ 35 กาวเทคโนโลยีสูง ปราศจากไอโซไซยาเนตจึงไม่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องฟองอากาศในกาว ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนออย์จึงลดปัญหาการเกิดคราบเปื้อนหรือคราบน้ำมันบนวัสดุที่มักเกิดขึ้นเมื่อใช้ซิลิโคนยาแนว กาวมีความคงทนและไม่หดตัวเนื่องจากมีตัวทำละลายน้อย เหมาะสำหรับยาแนวและยึดติดรอยต่อเคลื่อนไหวในการก่อสร้างคอนกรีตสำเร็จรูป รอยต่อส่วนขยายและการเชื่อมต่อของอาคาร ส่วนตกแต่งผนังโลหะอลูมิเนียมหรือหินธรรมชาติ กรอบหน้าต่างและประตู เฉลียง ระเบียง คานสะพาน ฝาผนัง และทางใต้ดิน ใช้ยึดติดในวัสดุต่างชนิดในอุตสาหกรรมรถยนต์ ตู้คอนเทนเนอร์ บ้านเคลื่อนที่ โครงสร้างเรือ ระบบทำความเย็น เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ใช้ได้กับพื้นผิวทั่วไปโดยไม่ต้องใช้สารรองพื้น เช่น ไม้ อิฐ อลูมิเนียม กระเบื้องเคลือบ โลหะเคลือบ แผ่นผนังอีพ๊อกซี่และโพลีเอสเตอร์ ยูพีวีซี โพลีสไตนรีน และสแตนเลส สามารถทาสีทับได้หลากหลายชนิด

EMFIMASTIC MS 60 NG (เอ็มฟี่มาสติก เอ็มเอส 60 เอ็นจี)

 

เอ็มฟี่มาสติก เอ็มเอส 60 เอ็นจี กาวเทคโนโลยีเอ็มเอสโพลิเมอร์องค์ประกอบเดียว เหมาะสำหรับยาแนวในงานอุตสาหกรรมรถตู้เย็นคอนเทนเนอร์และตู้ลาก ตัวถังรถบรรทุก โครงสร้างเรือ ระบบทำความเย็นและเครื่องปรับอากาศ แผ่นผนังแซนวิช และงานอุตสาหกรรมอื่น ๆ และ ยังสามารถใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ยาแนวรอยต่อทั้งภายในหรือภายนอกอาคารที่อาจต้องรองรับแรงสั่นสะเทือนหรือมีการเคลื่อนไหว มีการยึดเกาะดีเยี่ยมกับพื้นผิววัสดุหลากหลายในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง เช่น กระเบื้อง ปูน กระจก ไม้ พีวีซี อลูมิเนียมก่อนทาสี โลหะที่ไม่ใช่เหล็ก โพลีสไตรีน หิน โพลีเอสเตอร์ ฯลฯ

บทความอื่น

เว็บไซต์ของ บริษัท แอดฮีซีล จำกัด มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คุณในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของคุกกี้ที่บริษัทฯจัดเก็บ วัตถุประสงค์ในการใช้คุกกี้ และวิธีการตั้งค่าคุกกี้ได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ ของบริษัทฯ